ปัจจุบันการใช้พลังงานของอาคารเพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ภาครัฐและภาคเอกชนจึงให้ความสนใจมากขึ้นในเรื่องของการอนุรักษ์พลังงานในอาคาร การอนุรักษ์พลังงานในอาคารเป็นหนทางในการลดการใช้พลังงานในอาคาร โดยผลที่ตามมาคือสามารถลดต้นทุนและภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในอาคารลงได้
การอนุรักษ์พลังงานในอาคาร มีหลากหลายวิธีการที่นิยมใช้ และค่าใช้จ่ายไม่สูง ตัวอย่างเช่น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (คอนกรีตมวลเบา กระจกเขียวตัดแสง ติดฉนวนกันความร้อน) เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง (เครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 ตามมาตรฐานของ กฟผ. ระบบปรับอากาศประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง หรืออุปกรณ์ผลิตน้ำร้อนประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงตามมาตรฐานของ พพ.) หรือการเลือกใช้พลังงานหมุนเวียนเข้ามาช่วยเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าในอาคาร (Solar Cell หรือ Solar Collector)
นอกเหนือจากที่กล่าวไป ในบางอาคารที่ต้องการยกระดับการอนุรักษ์พลังงานในสูงขึ้น มักจะมีระบบการบริหารจัดการพลังงานในอาคาร หรือ Building Energy Management System (BEMs) เพื่อช่วยในการจัดการ ควบคุม ติดตามการใช้พลังงานตลอดเวลา บางอาคารได้นำเทคโนโลยี IoT เข้ามาช่วย เช่นการควบคุมหลอดไฟผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
ปัจจุบันประเทศไทยได้ออกกฎหมายเพื่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานในอาคารเพิ่มขึ้นในประเทศโดยสำหรับอาคารก่อสร้างใหม่ หรือดัดแปลง พื้นที่อาคารตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตร ขึ้นไป ในอาคาร 9 ประเภท (สถานศึกษา สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า สถานบริการ อาคารชุมนุมคน โรงมหรสพ สถานพยาบาล โรงแรม และอาคารชุด) ต้องมีการออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน และตรวจประเมินแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน ก่อนทำการขออนุญาตก่อสร้าง หรือขออนุญาตเปิดใช้งานอาคาร โดยกฎหมายบังคับใช้กับทั้งอาคารภาครัฐ และภาคเอกชน
การตรวจประเมินแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานนั้น จะต้องประเมินด้วยกันทั้งหมด 5 ระบบ ได้แก่ ระบบเปลือกอาคาร ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ อุปกรณ์ผลิตน้ำร้อน และการใช้พลังงานหมุนเวียนในอาคารซึ่งต้องกระทำโดยวิศวกรหรือสถาปนิกที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและผ่านหลักสูตรที่พพ.ให้การรับรองทั้งนี้ผู้ประกอบการหรือหน่วยงานใด ต้องการตรวจประเมินอาคารอนุรักษ์พลังงานสามารถติดต่อมาที่ บริษัท จิกะจูล จำกัด ทางบริษัทเราให้บริการตรวจประเมินแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานทั้งหน่วยงานรัฐ และหน่วยงานเอกชน