หลักการพื้นฐานของเทคโนโลยีระบบปรับอากาศ เป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในธุรกิจ ซึ่งในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย ระบบปรับอากาศมีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าถึงประมาณ 60% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของอาคาร ในระบบปรับอากาศ จะใช้สารทำความเย็นช่วยในการดูดความร้อนจากภายในห้องไปทิ้งที่ภายนอกห้อง โดยใช้คอมเพรสเซอร์ในการขับเคลื่อนสารทำความเย็น ซึ่งจะทำให้ห้องมีอุณหภูมิเย็นกว่าภายนอกห้อง และทำให้ผู้อยู่อาศัยในอาคารรู้สึกสบาย
ความรู้สึกสบายของคนเราขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ เช่น อัตราการทำปฏิกิริยาเคมีในร่างกายซึ่งจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ปกติร่างกายจะมีอุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียส เมื่อนั่งทำงานจะให้ความร้อนในรูปความร้อนสัมผัสและความร้อนแฝงประมาณ 176 W ถ้าพลังงานนี้ไม่สามารถถ่ายเทให้กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราจะรู้สึกไม่สบาย โดยทั่วไปคนไทยที่สวมเครื่องแต่งกายปกติ จะรู้สึกสบายเมื่ออยู่ในอากาศที่มีอุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 55% และความเร็วลม 0.2 เมตร/วินาที แต่ในบรรยากาศภายนอกมีสภาวะแปรเปลี่ยนตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องอยู่ในห้องที่สามารถปรับสภาวะอากาศได้
หลักการประหยัดพลังงานของระบบปรับอากาศ
- การใช้งานอุปกรณ์ที่มีอยู่ในระบบปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
- การปรับปรุงระบบปรับอากาศที่ใช้งานอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- การออกแบบอาคาร การออกแบบระบบปรับอากาศ และการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- การบำรุงรักษาอุปกรณ์ในระบบปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
ประโยชน์ของการประหยัดพลังงานในระบบปรับอากาศ
- ลดภาระค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายให้กับค่าพลังงานไฟฟ้าของระบบปรับอากาศ
- อุณหภูมิอากาศถูกต้องตามความต้องการ
- ความชื้นสัมพัทธ์เหมาะสมสัมพันธ์กับอุณหภูมิที่ต้องการ
- อากาศมีความสะอาด ปราศจากฝุ่นละออง และกลิ่นที่รบกวน
- มีการไหลเวียนของอากาศภายในอย่างสม่ำเสมอ
- ทำให้เกิดความสบายและสุขภาพที่ดีต่อผู้ปฏิบัติงาน
ข้อมูลจาก : http://www2.dede.go.th/bhrd/old/web_display/building/build_air.html